วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

ประวัติพระบิดาของลูกเสือไทย


พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย  ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระศรีพัชรินทร์ทราบรมราชินีนาถ  ทรงพระราชสมภพ  เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2423  พระนามเดิมของพระองค์  คือ สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ
     เมื่อ  พ.ศ. 2436  ขณะมีพระชนมายุได้  13  พรรษา  หลังจากได้รับการศึกษาเบื้องต้นในประเทศ
ไทยแล้ว  ได้เสด็จไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ  โดยทรงศึกษาวิชาทหารบกที่โรงเรียนแซนด์เฮิร์ต  และวิชาประวัติศาสตร์   รัฐศาสตร์  เศรษฐศาสตร์  กฎหมาย  วรรณคดี  ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด  รวมเวลาที่ทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ  9  ปี
     ในปี  พ.ศ. 2537  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสยามมกุฎราชกุมารได้สิ้นพระชนม์  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ  จึงโปรดเกล้าฯสถาปนาพระองค์ขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  ซึ่งเป็นตำแหน่งรัชทายาทแทน
     พ.ศ. 2445  พระองค์ได้เสด็จกลับประเทศไทย  และทรงเข้ารับราชการทหาร  พ.ศ. 2447  ได้ทรงผนวชและศึกษาพระธรรมวินัยจนแตกฉาน   หลังจากลาผนวชได้เสด็จไปประทับ  ณ  พระราชวังสราญรมณ์  พ.ศ. 2450  เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จประพาสทวีปยุโรป  ได้ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จสวรรคต  พระองค์ก็ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ  เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงค์จักรีโดยทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชภิเษกเมื่อวันที่ 11  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2453  ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุ  30  พรรษา  พระองค์ครองราชสมบัติ  อยู่  16  ปี  จึงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่  25  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2468  พระชนมายุได้  45  พรรษา


ประวัติลูกเสือโลก

โรเบิร์ต สตีเฟนสัน สไมธ์ เบเดน-โพเอลล์ (Robert Stephenson Smyth Baden - Powell) หรือมักจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า ลอร์ด เบเดน-โพเอลล์ และรู้จักกันดีในวงการลูกเสือในนาม บี.พี. (B.P.) คือผู้ที่ให้กำเนิดกิจการลูกเสือ (SCOUT) ขึ้นมาในโลกใบนี้ การกำเนิดของลูกเสือไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน แต่บ่มเพาะอยู่ในตัวของท่าน บี.พี. มาอย่างยาวนาน
บี.พี. มีพี่น้อง 7 คน อยู่กับมารดา โดยกำพร้าบิดาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ในวัยเด็กของท่านแสดงให้เห็นถึงนิสัยรักผจญภัย และชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง ท่านมักจะเดินทางไกลไปพักแรมร่วมกับพี่น้องของท่านตามที่ต่าง ๆ ในอังกฤษ ชอบท่องเที่ยวในป่ารอบโรงเรียน ซุ่มดูสัตว์ต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังเป็นผู้รักษาประตูมือดี และเป็นนักแสดงละครที่ได้รับความนิยมในโรงเรียน รวมทั้งรักดนตรี และวาดภาพอีกด้วย
เมื่ออายุได้ 19 ปี ท่านได้เข้าร่วมกับกองทหารม้าของอังกฤษไปประจำอยู่ที่อินเดีย ความสามารถอันโดดเด่นด้านการใช้ชีวิตกลางแจ้งของท่าน แสดงให้เห็นจากการที่ท่านได้รับรางวัลการล่าหมูป่าบนหลังมาด้วยหอกเล่มเดียว (Pig Sticking) ซึ่งเป็นกีฬาที่อันตราย และได้รับความนิยมอย่างมาก
ในปี ค.ศ. 1887 บี.พี. ได้ไปประจำการอยู่ในแอฟริกา ซึ่งต้องรบกับชนเผ่าพื้นเมืองที่ป่าเถื่อนดุร้าย ไม่ว่าจะเป็น ซูลู อาซันติ หรือมาตาบีลี และด้วยความสามารถของท่านในการสอดแนม การสะกดรอย รวมทั้งความกล้าหาญของท่าน ทำให้ท่านเป็นที่หวาดกลัวของบรรดาชนพื้นเมืองจนถึงกับตั้งฉายาท่านว่า "อิมปีซ่า" (Impeesa) หมายความว่า "หมาป่าผู้ไม่เคยหลับนอน" และด้วยความสามารถของท่าน ทำให้ท่านได้เลื่อนยศอย่างรวดเร็ว
ในปี ค.ศ. 1889 อังกฤษมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐทรานสวาล พันเอก เบเดน-โพเอลล์ ได้รับคำสั่งให้นำทหารม้าสองกองพันเดินทางไปป้องกันเมืองมาฟอีคิง ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะตั้งอยู่ใจกลางของแอฟริกาใต้ ที่นี่เองเป็นสถานที่ที่ทำให้ท่านได้รับชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ในการรักษาเมืองไว้จากเงื้อมมือของข้าศึกที่ล้อมอยู่ด้วยกำลังมากกว่าอย่างมหาศาลไว้ได้ถึง 217 วัน จนกระทั่งกองทหารของอังกฤษได้บุกเข้าไปช่วยเหลือเป็นผลสำเร็จ

หลังจากศึกคราวนี้ ท่านได้เลื่อนยศเป็นพลตรี และได้รับการนับถือจากชาวอังกฤษให้เป็นวีรบุรุษ
ในปี ค.ศ. 1901 บี.พี. เดินทางกลับไปยังอังกฤษ และด้วยชื่อเสียงของท่านในฐานะวีรบุรุษ ทำให้หนังสือที่ท่านเขียนขึ้นเพื่อให้ทหารอ่าน ชื่อ "Aids to Scoutting" หรือ "การสอดแนมเบื้องต้น" ได้รับความนิยมจนกระทั่งนำไปใช้เป็นแบบเรียนในโรงเรียนชายมากมาย
จุดนี้เอง ทำให้ บี.พี. เกิดประกายความคิดถึงโอกาสที่จะพัฒนาเด็กอังกฤษให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง เพราะถ้าหนังสือสำหรับผู้ใหญ่เกี่ยวกับการปฏิบัติการสอดแนม สามารถดึงดูดความสนใจของเด็กได้ ถ้าท่านทำหนังสือสำหรับเด็กโดยเฉพาะก็คงจะได้ผลมากยิ่งขึ้น

บี.พี. จึงเริ่มศึกษาเรื่องราวของการฝึกอบรมเด็กจากทุกยุคทุกสมัย และนำประสพการณ์ในอินเดีย และแอฟริกา มาดัดแปลง และค่อย ๆ พัฒนาความคิดเกี่ยวกับการลูกเสืออย่างช้า ๆ ด้วยความระมัดระวัง จนกระทั่งฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1907 ท่านจึงได้รวบรวมเด็กยี่สิบคน ไปพักแรมกับท่านที่เกาะบราวซี (Brownsea) ในช่องแคบอังกฤษ ซึ่งนับเป็นการอยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือครั้งแรกของโลก และประสพผลสำเร็จอย่างงดงาม

ต้นปี ค.ศ. 1908 บี.พี. ได้จัดพิมพ์คู่มือการฝึกอบรมขึ้น แบ่งออกเป็นหกตอนในชื่อ "Scoutting for Boys" หรือ "การสอดแนมสำหรับเด็ก" ซึ่งมีภาพประกอบที่เขียนโดยตัวท่านเองอยู่ด้วย เมื่อหนังสือเริ่มวางจำหน่าย แม่แต่ตัวท่านเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่า มันจะเป็นจุดที่ทำให้เกิดกองลูกเสือขึ้นมากมาย ไม่เฉพาะในอังกฤษเท่านั้น แต่แพร่หลายไปในหลาย ๆ ประเทศอีกด้วย
เมื่อกิจการลูกเสือเติบโตขึ้น บี.พี. ได้มองเห็นโอกาสที่จะได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ ด้วยการใช้การลูกเสือบ่มเพาะเด็กรุ่นใหม่ให้เป็นพลเมืองดี แทนที่จะต้องมาฝึกผู้ใหญ่ให้เป็นทหาร ท่านจึงได้ลาออกจากกองทัพในปี ค.ศ. 1910 ขณะที่มียศพันโท เพื่อเดินเข้าสู่ชีวิตที่ท่านเรียกว่า "ชีวิตที่สอง" (Second Life) ที่ให้บริการโลกใบนี้ด้วยกิจการลูกเสือ และได้รับผลรางวัลเป็นความรักและนับถือจากลูกเสือทั่วโลก
ปี ค.ศ. 1912 บี.พี. เดินทางรอบโลกไปพบปะกับลูกเสือในประเทศต่าง ๆ และเริ่มต้นเสริมสร้างการเป็นพี่น้องกันของลูกเสือทั่วโลก น่าเสียดายที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งทำให้งานนี้ต้องหยุดชงักลงชั่วขณะ แต่ก็เริ่มสานต่อหลังจากสงครามสิ้นสุดลง
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1920 ก็ได้จัดให้มีการชุมนุมลูกเสือระหว่างประเทศขึ้นในกรุงลอนดอน ซึ่งถือเป็นการชุมนุมลูกเสือโลกเป็นครั้งแรก (1st World Jamboree) และในคืนวันสุดท้ายของการชุมนุม บรรดาลูกเสือที่เข้าร่วมชุมนุมก็ร่วมกันประกาศให้ บี.พี. ดำรงตำแหน่งประมุขของคณะลูกสือโลก (Chief Scout of the World)
และเมื่อกิจการลูกเสือดำเนินมาครบ 21 ปี พระเจ้ายอร์ชที่ 5 ก็ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ท่านเป็นขุนนาง มีชื่อยศว่า Lord Baden Powell of Gilwell
เมื่อ บี.พี. มีอายุครบ 80 ปี กำลังของท่านก็เริ่มทรุดลง ท่านได้กลับไปพักผ่อนในช่วงบั้นปลายชีวิตในแอฟริกาที่ท่านรัก และถึงแก่กรรมในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1941 เมื่อมีอายุ 84 ปี

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560

รวม 11 ตัว พรีเมียร์ลีก! ค่าตัวรวมกันน้อยมาก แต่โชว์ผลงานได้ โคตรโหด!!




1ผู้รักษาประตู: แจ็ค บัตแลนด์

จาก เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ไป สโต๊ค ซิตี้ 3.25 ล้านปอนด์
นายทวารชาวอังกฤษวัย 23 ปี ติด ทีมสิงโตคำราม ชุดเยาวชนมาแล้วทุกระดับก่อนจะมีโอกาสลงเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 4 เกมส์ เขาถูก เดอะ พ็อตเตอร์ส ที่มองการณ์ไกลดึงตัวมาจากทีมจากถิ่นมิดแลนด์ในปี 2013 จนกระทั่งหลังการจากไปของ อัสเมียร์ เบโกวิช ก็ทำให้ บัตแลนด์ ได้ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งมือหนึ่งในทีมได้อย่างเต็มตัว และช่วยโชว์ฟอร์มเซฟไปถึง 81 ครั้งซึ่งดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลที่แล้ว
coleman

2แบ็คขวา: เชมุส โคลแมน

จาก สลิโก โรเวอร์ส ไป เอฟเวอร์ตัน 6 หมื่นปอนด์
1 ในแบ็คขวาที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในเวลานี้ถูกซื้อตัวมาด้วยราคาไม่ถึงหนึ่งแสนปอนด์! ถึงแม้มันจะเป็นดีลที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2009 ก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับในสายตาอันเฉียบคมของทีมแมวมอง ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน และยังถือเป็นผลงานการทำธุรกิจที่คุ้มค่าสุดๆของ เดวิด มอยส์ โดยในซีซั่นนี้ แบ็คจอมบุกชาวไอริช มีสถิติพาบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้ถึง 11 ครั้งจากโอกาส 14 ครั้ง (79%)

rose

3แบ็คซ้าย: แดนนี่ โรส

จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1 ล้านปอนด์
กองหลังผิวสีวัย 26 ปี ที่สามารถยึดตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงใน ทีมสิงโตคำราม ได้อย่างต่อเนื่องในระยะหลังๆ ย้ายเข้าสู่ถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งระหว่างนั้นก็ถูกส่งตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมต่างๆอย่าง วัตฟอร์ด, ปีเตอร์โบโร่, บริสตอล ซิตี้ และ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนจะกลับมายึดตำแหน่ง 11 คนแรกภายในทีมได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา

fonte

4เซ็นเตอร์แบ็ค: โชเซ่ ฟอนเต้

จาก คริสตัล พาเลซ ไป เซาแธมป์ตัน 1.2 ล้านปอนด์
ปราการหลังเลือดฝอยทองของทีมนักบุญ เป็นนักเตะประเภทที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นสู่ระดับท็อปในช่วงวัยย่างเข้าสู่เลข 3 โดยหลังจากที่ย้ายเข้ามาร่วมทีมกับ เดอะ เซนต์ส ในปี 2010 เขาก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้ในอีก 2 ปีถัดมา ก่อนจะก้าวขึ้นมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมในฤดูกาล 2014-15 รวมถึงมีโอกาสติด ทีมชาติโปรตุเกส เป็นครั้งแรกในปีนั้นด้วยวัย 30 ปี

morgan

5เซ็นเตอร์แบ็ค: เวส มอร์แกน

จาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไป เลสเตอร์ ซิตี้ 1 ล้านปอนด์
ถึงแม้ปีนี้ทีมแชมป์เก่าอาจจะยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ร้อนแรงเทียบเท่ากับฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ กองหลังกัปตันทีมจิ้งจอกสยาม ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้ตามมาตรฐาน โดยในซีซั่นนี้ มอร์แกน บล็อกจังหวะทำประตูคู่แข่งได้ 5 ครั้งรวมถึงตัดบอลได้อีก 18 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดจากบรรดาแนวรับทั้งหมดของ เลสเตอร์ ซิตี้
ramsey

6มิดฟิลด์ตัวกลาง: อารอน แรมซี่ย์

จาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ไป อาร์เซนอล 5 ล้านปอนด์
กองกลางรูปหล่อทีมชาติเวลส์ ย้ายเข้ามาร่วม ทีมปืนใหญ่ ในปี 2008 โดยครั้งหนึ่งเขาเคยโชคร้ายสุดๆเมื่อประสบอุบัติเหตุขาหัก 2 ท่อนในเกมส์ที่พบกับ สโต๊ค ซิตี้ ในปี 2010 ในเวลานั้นหลายๆคนรู้สึกหวั่นใจว่าเขาจะไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลด้วยมาตรฐานระดับสูงได้อีกแล้ว แต่ แรมซี่ย์ ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองให้ใครๆเห็นว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาฟิตเต็มร้อยก็พร้อมกลับมาเป็นขุมกำลังหลักให้กับทั้งในสโมสรและทีมชาติได้อีกครั้ง
dier

7มิดฟิลด์ตัวกลาง: เอริค ไดเออร์

จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 4 ล้านปอนด์
เมื่อคราวที่ กองกลางสารพัดตำแหน่ง ย้ายกลับจาก โปรตุเกส มาอยู่กับ ทีมแกร่งจากลอนดอน เมื่อปี 2014 แทบไม่มีใครรู้จัก ดาวเตะชาวอังกฤษ ที่ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยหลังจากออกสตาร์ทกับ ไก่เดือยทอง ในตำแหน่งกองหลัง ถัดมาในฤดูกาล 2015-16 เขาถูกขยับขึ้นมาปักหลักอยู่หน้าแผงแนวรับ และโชว์ฟอร์มได้ดีจนมีรายชื่อติดไปตะลุย ศึกยูโร 2016

Marez

8ปีกขวา: ริยาด มาห์เรซ

จาก เลอ อาฟร์ ไป เลสเตอร์ ซิตี้ 750,000 ปอนด์
อีกหนึ่งผลงานระดับ 5 ดาวของทีมแมวมอง จิ้งจอกสยาม เมื่อไปคว้าตัว ปีกจอมพลิ้วชาวแอลจีเรีย มาด้วยค่าตัวไม่ถึง 1 ล้านปอนด์ ในปี 2014 โดยผลงานสุดเปรี้ยงปร้างของ มาห์เรซ ก็คือการยิงไป 17 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีกไปครอง ซึ่งเป็นการยกระดับฟอร์มขึ้นมาอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับซีซั่นเปิดตัวที่ทำไปได้เพียง 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์

arnautovic

9ปีกซ้าย: มาร์โก อาร์เนาโตวิช

จาก แวร์เดอร์ เบรเมน ไป สโต๊ค ซิตี้ 2 ล้านปอนด์
สตาร์ตัวแสบทีมชาติออสเตรีย เริ่มสร้างชื่อเสียงในระดับยุโรปกับ ทีมนกนางนวล ใน บุนเดสลีกา ก่อนจะย้ายมาเล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวสุดถูก ครั้งหนึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ เคยพูดถึง อาร์เนาโตวิช ที่เคยอยู่ร่วมทีมเดียวกันในระยะสั้นๆที่ อินเตอร์ มิลาน ว่า “เป็นผู้เล่นที่มีฝีเท้ามหัศจรรย์แต่มีทัศนคติแบบเด็กๆ” ดาวยิงวัย 27 ปี เป็นดาวซัลโวสูงสุดของ ทีมช่างปั้นหม้อ ในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยผลงาน 11 ประตูในลีก

alli

10มิดฟิลด์ตัวรุก: เดเล่ อัลลี่

จาก เอ็มเค ดอนส์ ไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 5 ล้านปอนด์
จากนักเตะดาวรุ่งที่ลงเล่นอยู่ใน ลีก แชมเปี้ยนชิพ ในซีซั่น 2014-15 กลับกลายมาเป็นขุมกำลังหลักของ ไก่เดือยทอง ในปีถัดมาและสามารถพาทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 พร้อมกับคว้ารางวัล นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ไปครองด้วยผลงาน 10 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ในเกมส์ลีก จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ อัลลี่ จะติดเป็น 1 ใน 23 ขุนพลของ ทีมสิงโตคำรามใน ศึกยูโร 2016
vardy

11ศูนย์หน้า: เจมี่ วาร์ดี้

จาก ฟลีตวู้ด ทาวน์ ไป เลสเตอร์ ซิตี้ 1 ล้านปอนด์
ในปี 2012 จิ้งจอกสยาม จัดการคว้าตัวนักเตะที่กลายเป็นสถิติย้ายทีมของผู้เล่นจากทีมนอกลีก โดยในฤดูกาลแรกเขาโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างย่ำแย่และถูกโจมตีอย่างหนักจนถึงขั้นที่ท้อจนคิดจะยกเลิกสัญญา แต่สุดท้าย วาร์ดี้ ก็อยู่สู้ต่อไปจนสามารถช่วยทีมเลื่อนชั้นได้ในฤดูกาลถัดมา และมาโชว์ฟอร์มได้พีคสุดขีดจากผลงาน 24 ประตูที่เป็นรองดาวซัลโวโดยตามหลัง แฮร์รี่ เคน เพียง 1 ลูกในฤดูกาล 2015-16 ที่ทีมของเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้แบบสุดเซอร์ไพรส์

จรวดเรียกพี่! กับ 10 นักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก!


10. Lionel Messi

Large open uri20160712 2067 12w13h2

ความเร็ว : 32.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เมสซี่ นักเตะอัจฉริยะชาวอาเจนติน่า เล่นให้กับกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ในลีก ลาลีกาสเปน และยังติดรายชื่อในทีมชาติอาร์เจนตินาด้วย เมสซี่ จัดว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลกยุคนี้คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปร่างที่เล็ก แต่ทดแทนมาด้วยการขยันฝึกซ้อม จนทำให้เมสซี่มีข้อเท้าที่ไวและการเคลื่อนที่ไปกับบอลที่คล่องตัวจนยากแก่การแย่งบอล

9. Ross Barkley

Preload

ความเร็ว : 32.8 กิโลเมตร/ชั่วโมง

รอส บาร์กลีย์ นักเตะชาวอังฤษรายนี้เป็นหนึ่งในผลผลิตของ เอฟเวอร์ตัน อคาเดมี่ โดยปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ให้กับ สโมสรเอเวอร์ตัน ในพรีเมียร์ลีก เสริมอีกสักนิดนึง สำหรับ บาร์ลีย์ ยังถือเป็นนักเตะสายเลือดแท้ๆของเอเวอร์ตันอีกด้วย เพราะ บาร์กลีย์ ลงเล่นให้กับเอฟเวอร์ตันตั้งแต่อายุเพียงแค่ 11 ขวบ เท่านั้นเอง เจ้าหนูดาวรุ่งรายนี้มีสปีดบอลในเกมรุกที่ไว จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงติดอันดับกับเขาด้วย

8. Gabriel Agbonlahor

Preload

ความเร็ว : 33.3 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย เป็นกองหน้ามากความเร็วสูง ปัจจุบันเล่นให้กับ สโมสรฟุตบอลแอสตันวิลล่าที่เพิ่งจะตกชั้นลงไป และยังเคยมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษมาแล้วด้วย หนึ่งในจุดเด่นที่แฟนๆบอลอังกฤษจำได้ก็คือสปีดบอลของตัวเขา ที่ชอบจะใช่ความเร็ววิ่งฉีกออกไป จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาเป็นหนึ่งในนักบอลที่เร็วที่สุดในโลก

7. Cristiano Ronaldo

Preload

ความเร็ว : 33.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง

คริสเตียโน โรนัลโด้ ซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการฟุตบอลผู้เลื่องชื่อ เริ่มต้นจากการเล่นปีกและมีทักษะเด่นจากเทคนิคการสับขาหลอก และสปีดการเล่นที่รวดเร็ว ปัจจุบันขยับไปยืนจนเหมือนเล่นศูนย์หน้าแทนไปซะแล้ว โรนัลโด้ เป็นเหมือนไอค่อนของวงการฟุตบอลที่โชว์ให้เห็นว่า การฝึกซ้อมและดูแลร่างกายอย่างสมบูรณ์แบบทำให้ประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องพึ่งพรสวรรค์ นั่นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขามีความเร็วสูงจากวิทยาศาสตร์การกีฬา

6. Aaron Lennon

Preload

ความเร็ว : 33.8 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อารอน เลนน่อน แม้จะย้ายมาได้เพียงช่วงเวลาไม่นานแต่ก็ได้ขึ้นแท่น เป็นกองกลางตัวเก่งของเอเวอร์ตันไปซะแล้ว นักเตะชาวอังกฤษผู้นี้ รับใช้ทีมชาติอังกฤษมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ชุดยู-17, ยู-19 และ ยู-21 ไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ ชุดแข่งฟุตบอลโลก ปี 2006 ด้วยความพริ้ว และการกระชากเลี้ยงบอลหนีตัวประกบ ต้องยอมรับเลยว่า เลนน่อน เป็น หนึ่งในนักเตะที่มีความเร็วสูงมากจริงๆ และเป็นนักฟุตบอลที่หาตัวประกบได้ยากคนหนึ่งเลยทีเดียว

5. Theo Walcott

Preload

ความเร็ว : 34.3 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ธีโอ วัลคอตต์ ฉายา " ดาวยิงความเร็วสูง " ของอาเซน่อล สโมสรฟุตบอลชื่อดังแห่งพรีเมียร์ลีก แค่ฉายาก็คงบ่งบอกได้ถึงความเร็วที่เหนือชั้นของศูนย์หน้ารายนี้อยู่แล้ว และถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ปัจจุบันนี้ก็ยังคงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่อยู่ และด้วยฝีเท้าที่รวดเร็ว ว่องไว หาตัวจับได้ยากของศูนย์หน้าชาวอังกฤษลูกครึ่งจาเมกาผู้นี้ ทำให้กองหลังฝั่งตรงข้ามที่ต้องคอยประกบ แทบจะเป็นลมกันเลยทีเดียว

4. Gareth Bale

Preload

ความเร็ว : 34.7 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แกเร็ธ เบล นักฟุตบอลชาวเวลส์ อดีตดาวเตะทอตแนมฮ็อตสเปอร์ ปัจจุบันเล่นอยู่กับสโมสรเรอัลมาดริค ในตำแหน่งปีกซ้าย เคยได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ 2 สมัย ในปี 2011 , 2013 นอกจากนี้ยังถือเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ด้วยค่าตัวกว่า 85 ล้านปอนด์ เบล ฉายา ปีกความเร็วสูง โดดเด่นที่สปีด ที่มักใช้ความเร็วฉีกกองหลังคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น และยังมีออฟชั่นเสริมจุดเด่นด้วยลูกกลางอากาศที่ยอดเยี่ยม

3. Raheem Sterling

Preload

ความเร็ว : 35.1 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ราฮีม สเตอร์ลิง หนูน้อยเจ้าปัญหาชาวอังกฤษ ดีกรีนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ที่สร้างชื่อเสียงมาจากสโมสรลิเวอร์พูล ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี แต่ปัจจุบันย้ายสังกัดมาอยู่กับ สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 49 ล้านปอนด์ ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าหนูสเตอร์ลิง บวกกับฝีเท้า และความเร็วที่ใช้ช่วยในการทำประตูในสมัยที่อยู่กับลิเวอร์พูล ถึงแม้ฟอร์มจะหดหายไปในตอนย้ายมาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ตาม แต่ความเร็วในการกระชากหนีของเขาก็ยังคงอันตรายอยู่ ถ้าได้ขัดเกลาอีกสักหน่อย

2. Antonio Valencia

Preload

ความเร็ว : 35.2กิโลเมตร/ชั่วโมง

อันโตนิโอ วาเลนเซีย ดาวเตะจากทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ย้ายมาจากวีแกนแอทเลติกด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก นอกจากนี้ยังมีชื่อติดในทีมชาติชุดใหญ่ของทีมชาติเอกวาดอร์ จากสถิติของฟีฟ่า เผยว่า บาเลนเซีย เป็นนักฟุตบอลที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก สำหรับ ปีกจอมอึดชาวเอกวาดอร์ โดดเด่นจากการเป็นนักเตะที่ทำงานหนักมาก บวกกับความเร็วที่เขามีเป็นจุดเด่น คอบอลอาจจะเห็นเขาเล่นด้วยการจิ้มบอลหนีและวิ่งตามบอลไปเล่นต่ออยู่แทบทุกครั้งในฝั่งริมเส้น

1. Arjan Robben

Preload

ความเร็ว : 35.7 กิโลเมตร/ชั่วโมง


SBOBET จัดให้สรุป 10 อันดับนักฟุตบอลที่รวยเว่อร์รายได้อลังกาลที่สุดในตอนนี้นั้นเขาเป็นใคร มีรายได้เท่าไหร่กันบ้างจากทุกช่องทางรวมกันต่อเดือน
sbobeth-sbo-13-10-2559
ทีมงานเว็บรับแทงบอลออนไลน์ sbobeth.com เกาะติดสถิติ 10 อันดับนักฟุตบอลรวยเวอร์ที่สุดในยุคนี้ เป็นที่รู้กันดีว่ากีฬาทุกวันนี้มันไม่ใช่แค่กีฬาเหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว แต่มันมีในเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยว ซึ่งแน่นอนว่าช่องทางที่ดีที่สุดที่เหล่าบรรดาผู้ลงทุนนิยมเข้ามาหานั้นก็คือตัวนักเตะนั้นเอง โดยสถิติ 10 อันดับนักเตะวันนี้จะเป็นการนับรวมรายได้ของนักเตะแบบรายได้เดือนจากค่าเหนื่อยโดยตรงของนักเตะ + กับเงินรายได้เสริมจากการสนับสนุนอื่นๆ
sbobeth-lampard
อันดับ 10 แฟร้งค์ แลมพาร์ด
สุดยอดซุปเปอร์สตาร์กองกลางในตำนานของสโมสรเชลซีที่ปัจจุบันย้ายไปขุดทองหาความท้าทายอยู่กับทางสโมสรนิวยอร์ค ซิตี้ซึ่งเป็นสโมสรลูกของเรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าด้วยวัยที่ผ่านเลยมาไกลใกล้เข้าเลข 4 เข้าไปทุกทีแต่กองกลางรายนี้นั้นก็ยังคงเนื้อหอมและโชว์ผลงานได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันรายรับของเขาต่อเดือนอยู่ที่ 80 ล้านยูโร (2,981 ล้านบาท)
sbobeth-ronaldinho
อันดับ 9 โรนัลดินโญ่
หนึ่งในสุดยอดนักเตะจอมลีลาผู้เป็นตำนานของทีมชาติบราซิล ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกจัดว่าเป็นนักเตะที่เก่งสุดคนหนึ่งของโลกในอดีตด้วยผลงานรางวัลการันตีความสำเร็จ นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปี 2004 และปี 2005 ปัจจุบันเขากำลังค้าแข้งอยู่กับทีมฟลูมิเนนเซ่ในประเทศบ้านเกิด รายรับของเขาต่อเดือนอยู่ที่ 83 ล้านยูโร (3,093 ล้านบาท)
sbobeth-raul
อันดับ 8 ราอูล กอนซาเลส
สุดยอดกองหน้าระดับตำนานของทีมชาติสเปนและสโมสรราชันชุดขาวเรอัล มาดริด ผลงานการันตีความคมกริบในการจบสกอร์ของเขาคือการเป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับสองของสโมสรเรอัล มาดริดที่ 323 ประตู ปัจจุบันเขาลดระดับตัวเองมาค้าแข้งให้กับสโมสรนิวยอร์ค คอสมอสในลีกอเมริกา มีรายรับต่อเดือนที่เข้ามาอยู่ที่ 85 ล้านยูโร (3,168 ล้านบาท)
sbobeth-eto
อันดับ 7 ซามูเอล เอโต้
กองหน้าผิวสีผู้มีชื่อเสียงรู้จักกันเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในสมัยช่วงที่เขาค้าแข้งให้กับสโมสรบาร์เซโลน่า เอโต้จัดว่าเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนือยแพงสุดๆเป็นอันดับต้นๆ มาตลอดโดยตลอดเกือบทุกที่ที่เขาย้ายไป ปัจจุบันเจ้าตัวค้าแข้งให้กับสโมสรอันตัลยาสปอร์ในลีกสูงสุดของตุรกีและเคยได้รับความไว้วางใจถึงขั้นให้พ่วงอ๊อพชั่นเป็นผู้จัดการทีมเฉพาะกิจให้กับสโมสรอีกด้วย รายรับต่อเดือนอยู่ที่ 87 ล้านยูโร (3,242 ล้านบาท)
sbobeth-kaka
อันดับ 6 ริคาร์โด้ กาก้า
เทพบุตรลูกหนังสัญชาติบราซิลผู้มีดีกรีความร้อนแรงเป็นถึงขั้นได้รับรางวัลบัลลงดอร์ปี 2007 มาแล้ว ด้วยลีลาและความเฉลี่ยวฉลาดในการรับบทจอมทัพที่ใครๆต่างปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงรุ่งเรืองของเขานั้นเก่งกาจแค่ไหน ปัจจุบันเขาแข้งอยู่ในลีกอเมริกาให้กับโอแลนโด้ ซิตี้ และมีรายรับเข้ามาต่อเดือนอยู่ที่ 96 ล้านยูโร (3,578 ล้านบาท)
sbobeth-rooney
อันดับ 5 เวย์น รูนี่ย์
กองหน้าสายพลังเหลือเฟือของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้มีค่าเหนื่อยสูงถึง 3 แสนปอน์ดต่อสัปดาห์ ทำผลงานถล่มประตูคู่แข้งมานับไม่ถ้วนในสีเสื้อปีศาจแดง ทว่าปัจจุบันแม้ว่าฟอร์มการเล่นของเขาจะสวนทางกับค่าเหนื่อยของเขาอยู่มากมายแ่ เขาก็ยังจัดว่าเป็นนักเตะคนดังที่ยังคงน่าเกรงขามของคู่แข่งอยู่เสมอ รายได้ต่อเดือนของเขาอยู่ที่ 103 ล้านยูโร (3,838 ล้านบาท)
sbobeth-zlatan
อันดับ 4 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ชายผู้นี้ผู้มีฝีปากอันแรงกล้าที่มาพร้อมกับความสามารถที่ทำได้จริงตามปากที่โม้ไว้ ซลาตันพิสูจน์ตัวเองให้ทั่วโลกได้เห็นอยู่เสมอว่าทีมใดก็ตามที่มีเขาอยู่ในทีมนั้นแทบจะการันตีแชมป์ในมือได้เลย เพราะทุกๆปี ทุกๆลีกที่เขาย้ายไปนั้นเจ้าตัวมักจะจบฤดูกาลด้วยเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีกอยู่เสมอ แต่ทว่าไม่ว่าเขานั้นจะเก่งกาจแค่ไหนเขาก็ไม่เคยใกล้เคียงประสบความสำเร็จในระดับทีมชาติและฟุตบอลรายการแชมป์เปี้ยนลีกเลย รายได้ของเขาต่อเดือนอยู่ที่ 105 ล้านยูโร (3,913 ล้านบาท)
sbobeth-neymar
อันดับ 3 เนย์มาร์
หนึ่งในสุดยอดแข้งจอมลีลาคนปัจจุบันที่มีแววว่าในอนาคตน่าจะเข้าป้ายท้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ได้ไม่ยาก แข้งจอมพริ้วรายนี้มีดีกรีความเก่งการันตีเป็นอย่างดีตั้งแต่อายุน้อยว่าสามารถแบกทีมที่เขาอยู่ได้ไม่ยาก ความไว ความพริ้ว การจบสกอร์ และทักษะสกิลต่างๆ คือจุดขายที่ครบเครื่องยอดแข้งรายนี้ รายได้ของเขาต่อเดือนอยู่ที่ 135 ล้านยูโร (5,031 ล้านบาท)
sbobeth-messi
อันดับ 2 ลีโอเนล เมสซี่
นักเตะผู้ได้รับการยอมรับว่าเปรียบได้กลับมุนษย์ต่างดาวอย่างลีโอเนล เมสซีคือสุดยอดแข้งที่คนทั่วโลกต่างยอมรับมากที่สุดว่าในปัจจุบันไม่มีใครอีกแล้วที่เก่งไปกว่าเขาแม้ว่าจะเป็นคู่แข่งตัวฉกาจอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ก็ตาม ผลงานการันตีความสำเร็จของเขานั้นนอกจากรางวัลความสำเร็จมากมายกับบาร์เซโลน่าแล้ว นั้นก็คือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ที่สูงที่สุดถึง 5 สมัย ซึ่งจัดว่าเยอะที่สุดตั้งแต่มีรางวัลนี้อีกด้วย ปัจจุบันรายได้ของเขาต่อเดือนอยู่ที่ 200 ล้านยูโร (7,454 ล้านบาท)
sbobeth-ronaldo
อันดับ 1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สุดยอดนักเตะผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนนึงของโลกทั้งในสนามและนอกสนาม รางวัลความสำเร็จของเขาในตอนนี้กวาดมาแล้วทั้งสิ้นมากมายทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โรนัลโด้จัดว่าเป็นตัวอย่างขอองยอดแข้งผู้มีความเพียรพยายามสูงจนกลายเป็นสุดยอดในจุดที่เขายืนอยุ่ทุกวันนี้ และจัดว่าเป็นคู่แข่งตัวฉกาจที่สูสีคู่ขี้กับเมสซี่มากที่สุดในยุคนี้ ปัจจุบันเขาค้าแข้งให้กับเรอัล มาดริดและเป็นกำลังสำคัญที่สโมสรไม่สามารถขาดเขาไปได้เลย รายได้ของเขาอยู่ที่ 210 ล้านยูโร (7,827 ล้านบาท)

รวม 11 ตัว พรีเมียร์ลีก! ค่าตัวรวมกันน้อยมาก แต่โชว์ผลงานได้ โคตรโหด!!



1ผู้รักษาประตู: แจ็ค บัตแลนด์

จาก เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ไป สโต๊ค ซิตี้ 3.25 ล้านปอนด์
นายทวารชาวอังกฤษวัย 23 ปี ติด ทีมสิงโตคำราม ชุดเยาวชนมาแล้วทุกระดับก่อนจะมีโอกาสลงเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 4 เกมส์ เขาถูก เดอะ พ็อตเตอร์ส ที่มองการณ์ไกลดึงตัวมาจากทีมจากถิ่นมิดแลนด์ในปี 2013 จนกระทั่งหลังการจากไปของ อัสเมียร์ เบโกวิช ก็ทำให้ บัตแลนด์ ได้ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งมือหนึ่งในทีมได้อย่างเต็มตัว และช่วยโชว์ฟอร์มเซฟไปถึง 81 ครั้งซึ่งดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลที่แล้ว
coleman

2แบ็คขวา: เชมุส โคลแมน

จาก สลิโก โรเวอร์ส ไป เอฟเวอร์ตัน 6 หมื่นปอนด์
1 ในแบ็คขวาที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ในเวลานี้ถูกซื้อตัวมาด้วยราคาไม่ถึงหนึ่งแสนปอนด์! ถึงแม้มันจะเป็นดีลที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2009 ก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับในสายตาอันเฉียบคมของทีมแมวมอง ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน และยังถือเป็นผลงานการทำธุรกิจที่คุ้มค่าสุดๆของ เดวิด มอยส์ โดยในซีซั่นนี้ แบ็คจอมบุกชาวไอริช มีสถิติพาบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้ถึง 11 ครั้งจากโอกาส 14 ครั้ง (79%)

rose

3แบ็คซ้าย: แดนนี่ โรส

จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1 ล้านปอนด์
กองหลังผิวสีวัย 26 ปี ที่สามารถยึดตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงใน ทีมสิงโตคำราม ได้อย่างต่อเนื่องในระยะหลังๆ ย้ายเข้าสู่ถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งระหว่างนั้นก็ถูกส่งตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมต่างๆอย่าง วัตฟอร์ด, ปีเตอร์โบโร่, บริสตอล ซิตี้ และ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนจะกลับมายึดตำแหน่ง 11 คนแรกภายในทีมได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา

fonte

4เซ็นเตอร์แบ็ค: โชเซ่ ฟอนเต้

จาก คริสตัล พาเลซ ไป เซาแธมป์ตัน 1.2 ล้านปอนด์
ปราการหลังเลือดฝอยทองของทีมนักบุญ เป็นนักเตะประเภทที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นสู่ระดับท็อปในช่วงวัยย่างเข้าสู่เลข 3 โดยหลังจากที่ย้ายเข้ามาร่วมทีมกับ เดอะ เซนต์ส ในปี 2010 เขาก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้ในอีก 2 ปีถัดมา ก่อนจะก้าวขึ้นมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมในฤดูกาล 2014-15 รวมถึงมีโอกาสติด ทีมชาติโปรตุเกส เป็นครั้งแรกในปีนั้นด้วยวัย 30 ปี

morgan

5เซ็นเตอร์แบ็ค: เวส มอร์แกน

จาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไป เลสเตอร์ ซิตี้ 1 ล้านปอนด์
ถึงแม้ปีนี้ทีมแชมป์เก่าอาจจะยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ร้อนแรงเทียบเท่ากับฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ กองหลังกัปตันทีมจิ้งจอกสยาม ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้ตามมาตรฐาน โดยในซีซั่นนี้ มอร์แกน บล็อกจังหวะทำประตูคู่แข่งได้ 5 ครั้งรวมถึงตัดบอลได้อีก 18 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดจากบรรดาแนวรับทั้งหมดของ เลสเตอร์ ซิตี้
ramsey

6มิดฟิลด์ตัวกลาง: อารอน แรมซี่ย์

จาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ไป อาร์เซนอล 5 ล้านปอนด์
กองกลางรูปหล่อทีมชาติเวลส์ ย้ายเข้ามาร่วม ทีมปืนใหญ่ ในปี 2008 โดยครั้งหนึ่งเขาเคยโชคร้ายสุดๆเมื่อประสบอุบัติเหตุขาหัก 2 ท่อนในเกมส์ที่พบกับ สโต๊ค ซิตี้ ในปี 2010 ในเวลานั้นหลายๆคนรู้สึกหวั่นใจว่าเขาจะไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลด้วยมาตรฐานระดับสูงได้อีกแล้ว แต่ แรมซี่ย์ ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองให้ใครๆเห็นว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาฟิตเต็มร้อยก็พร้อมกลับมาเป็นขุมกำลังหลักให้กับทั้งในสโมสรและทีมชาติได้อีกครั้ง
dier

7มิดฟิลด์ตัวกลาง: เอริค ไดเออร์

จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 4 ล้านปอนด์
เมื่อคราวที่ กองกลางสารพัดตำแหน่ง ย้ายกลับจาก โปรตุเกส มาอยู่กับ ทีมแกร่งจากลอนดอน เมื่อปี 2014 แทบไม่มีใครรู้จัก ดาวเตะชาวอังกฤษ ที่ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยหลังจากออกสตาร์ทกับ ไก่เดือยทอง ในตำแหน่งกองหลัง ถัดมาในฤดูกาล 2015-16 เขาถูกขยับขึ้นมาปักหลักอยู่หน้าแผงแนวรับ และโชว์ฟอร์มได้ดีจนมีรายชื่อติดไปตะลุย ศึกยูโร 2016

Marez

8ปีกขวา: ริยาด มาห์เรซ

จาก เลอ อาฟร์ ไป เลสเตอร์ ซิตี้ 750,000 ปอนด์
อีกหนึ่งผลงานระดับ 5 ดาวของทีมแมวมอง จิ้งจอกสยาม เมื่อไปคว้าตัว ปีกจอมพลิ้วชาวแอลจีเรีย มาด้วยค่าตัวไม่ถึง 1 ล้านปอนด์ ในปี 2014 โดยผลงานสุดเปรี้ยงปร้างของ มาห์เรซ ก็คือการยิงไป 17 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีกไปครอง ซึ่งเป็นการยกระดับฟอร์มขึ้นมาอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับซีซั่นเปิดตัวที่ทำไปได้เพียง 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์

arnautovic

9ปีกซ้าย: มาร์โก อาร์เนาโตวิช

จาก แวร์เดอร์ เบรเมน ไป สโต๊ค ซิตี้ 2 ล้านปอนด์
สตาร์ตัวแสบทีมชาติออสเตรีย เริ่มสร้างชื่อเสียงในระดับยุโรปกับ ทีมนกนางนวล ใน บุนเดสลีกา ก่อนจะย้ายมาเล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวสุดถูก ครั้งหนึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ เคยพูดถึง อาร์เนาโตวิช ที่เคยอยู่ร่วมทีมเดียวกันในระยะสั้นๆที่ อินเตอร์ มิลาน ว่า “เป็นผู้เล่นที่มีฝีเท้ามหัศจรรย์แต่มีทัศนคติแบบเด็กๆ” ดาวยิงวัย 27 ปี เป็นดาวซัลโวสูงสุดของ ทีมช่างปั้นหม้อ ในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยผลงาน 11 ประตูในลีก

alli

10มิดฟิลด์ตัวรุก: เดเล่ อัลลี่

จาก เอ็มเค ดอนส์ ไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 5 ล้านปอนด์
จากนักเตะดาวรุ่งที่ลงเล่นอยู่ใน ลีก แชมเปี้ยนชิพ ในซีซั่น 2014-15 กลับกลายมาเป็นขุมกำลังหลักของ ไก่เดือยทอง ในปีถัดมาและสามารถพาทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 พร้อมกับคว้ารางวัล นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ไปครองด้วยผลงาน 10 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ในเกมส์ลีก จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ อัลลี่ จะติดเป็น 1 ใน 23 ขุนพลของ ทีมสิงโตคำรามใน ศึกยูโร 2016
vardy

11ศูนย์หน้า: เจมี่ วาร์ดี้

จาก ฟลีตวู้ด ทาวน์ ไป เลสเตอร์ ซิตี้ 1 ล้านปอนด์
ในปี 2012 จิ้งจอกสยาม จัดการคว้าตัวนักเตะที่กลายเป็นสถิติย้ายทีมของผู้เล่นจากทีมนอกลีก โดยในฤดูกาลแรกเขาโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างย่ำแย่และถูกโจมตีอย่างหนักจนถึงขั้นที่ท้อจนคิดจะยกเลิกสัญญา แต่สุดท้าย วาร์ดี้ ก็อยู่สู้ต่อไปจนสามารถช่วยทีมเลื่อนชั้นได้ในฤดูกาลถัดมา และมาโชว์ฟอร์มได้พีคสุดขีดจากผลงาน 24 ประตูที่เป็นรองดาวซัลโวโดยตามหลัง แฮร์รี่ เคน เพียง 1 ลูกในฤดูกาล 2015-16 ที่ทีมของเขาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้แบบสุดเซอร์ไพรส์